โครงการวิจัย
การยกระดับไม้ผลพื้นเมืองของจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วยการพัฒนาการผลิตและผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้งสู่เชิงการค้า
Upgrading the native fruit trees of Nakhon Si Thammarat province by developing production and dried fruit products to the commercial field
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2566 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการชุด |
ประเภทงานวิจัย | โครงการประยุกต์ |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2565 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2566 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 พฤศจิกายน 2565 |
ประเภททุนวิจัย | ทุน ววน. |
สถานะโครงการ | แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต) |
เลขที่สัญญา | 011/2566 |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การสารวจความหลากหลายของชนิดและจานวนต้นไม้ผลพื้นเมืองในจังหวัดนครศรีธรรมราช ในพื้นที่ 11 อาเภอ 16 สถานี พบว่าการศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพจากการเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยค่าดัชนีความหลากหลาย (H') และค่าความสม่าเสมอ (Eveness) ระหว่างสถานีพบว่า ไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติ (P<0.05) โดยที่สถานีที่ 1 หมู่ 3 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง มีความหลากหลายสูงกว่าสถานีอื่น ๆ และสามารถเก็บตัวอย่างไม้ผลพื้นเมืองชนิดต่าง ๆ ได้อย่างสม่าเสมอกว่าสถานีอื่น ๆ (ค่าดัชนีความหลากหลาย เท่ากับ 0.9994 และค่าความสม่าเสมอ เท่ากับ 0.2589) พบไม้ผลพื้นเมืองทั้งสิ้น พบชนิดไม้ผลพื้นเมือง 60 ชนิด 21 วงศ์ จานวนต้นทั้งหมด 113,102 ต้น พบว่า ไม้ผลพื้นเมืองชนิดที่พบมากที่สุดคือ มะพร้าว จานวน 26,836 ต้น (คิดเป็นร้อยละ 23.7273) นอกจากนี้ยังพบพรรณไม้ผลพื้นเมืองที่จัดว่าเป็นพรรณไม้หายากในพื้นที่ คือ สาเก เนื่องจากเป็นพรรณไม้ผลพื้นเมืองที่มีจานวนต้นน้อยที่สุดจากการสารวจในพื้นที่ศึกษาทั้งหมด พบจานวนต้นเท่ากับ 25 ต้น (คิดเป็นร้อยบละ 0.0221) และจานวนชนิดไม้ผลพื้นเมืองพบมากที่สุดคือ สถานีที่ 1 หมู่ 3 ตาบลน้าตก อาเภอทุ่งสง มีจานวนชนิด เท่ากับ 52 ชนิด ยังพบว่าสถานีที่ 7 หมู่ 9 ตาบลเกาะเพชร อาเภอหัวไทร มีจานวนชนิดไม้ผลน้อยที่สุด เท่ากับ 11 ชนิดโดยพบไม้ผลพื้นเมืองในวงศ์ และ ARECACEAE (PALMAE) มากที่สุด จานวน 7 ชนิด จากการดาเนินการเพิ่มประสิทธิภาพเทคนิคการขยายพันธุ์ไม้ผลพื้นเมือง 3 ชนิด คือ จาปาดะ ทุเรียนบ้าน และมะไฟกา สามารถสรุปได้ดังนี้ 1. วิธีการที่เหมาะสมสาหรับการขยายพันธุ์จาปาดะ ทุเรียนบ้าน และมะไฟกา คือการเพาะเมล็ด ซึ่งสามารถเพาะเมล็ดเพื่อทาเป็นต้นตอสาหรับการติดตาหรือเสียบยอด หรือใช้ปลูกเป็นต้นพันธุ์ดี 2. วิธีการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์จาปาดะ ทุเรียนบ้าน และมะไฟกา คือการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ เนื่องจากสามารถให้ต้นที่มีความสม่าเสมอ ตรงตามพันธุ์ดีที่นามาขยาย และได้ต้นใหม่ที่รวดเร็ว สามารถใช้ในการ ปรับปรุงพันธุ์ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ เพื่อให้ได้ลักษณะใหม่ๆ ที่สนใจได้เป็นอย่างดี การเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอของจาปาดะ 1 เอ็มบริโอสามารถงอกเป็นต้นได้ถึง 6.25 ต้น และสามารถเพิ่มปริมาณได้เร็วกว่าวิธีการอื่น ๆ โดยมีการแตกเป็นยอดตามข้อ การวางเลี้ยงชิ้นส่วนลาต้นในอาหารเหลวให้การพัฒนาเป็นพืชต้นใหม่เร็วที่สุด ได้ต้นต้นโตและสมบูรณ์ที่สุด จากนั้นนาต้นที่ได้ไปชักนารากบนอาหารสูตร MS เติม NAA ความเข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ร่วมกับการสร้างบาดแผล สามารถชักนารากในหลอดทดลองได้ 6.80 รากต่อชิ้นส่วน เมื่อนาไปอนุบาลให้การรอดชีวิต 70 เปอร์เซ็นต์ หลังอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน (ค) การเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอของทุเรียนบ้าน จะให้ยอดใหม่เพียง 1 ยอด หรือ 1 ต้น เท่ากับการเพาะเมล็ดจากนั้นนาชิ้นส่วนยอดมาเพาะเลี้ยงในอาหารเหลวสูตร MS เติม BA ความเข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อลิตร จะให้การเกิดต้นใหม่มากที่สุด 3.80 ยอดต่อชิ้นส่วน การชักนารากบนอาหารสูตร MS เติม NAA ความเข้มข้น 3 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้การสร้างราก 60 เปอร์เซ็นต์ จานวนราก 1.60 รากต่อชิ้นส่วน เมื่อนาไปอนุบาลให้การรอดชีวิต 70 เปอร์เซ็นต์ หลังอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน การเพาะเลี้ยงเอ็มบริโอของมะไฟกา จะให้ยอดใหม่เพียง 1 ยอด หรือ 1 ต้น จากนั้นนาชิ้นส่วนยอดมาเพาะเลี้ยงบนอาหารสูตร MS เติม BA ความเข้มข้น 2 มิลลิกรัมต่อลิตร ให้การสร้างยอดใหม่ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ และต้นต้นสภาพสมบูรณ์ที่สุด การชักนายอดบนอาหารกึ่งแข็งกึ่งเหลวให้ความสูงยอดสูงสุด 1.05 เซนติเมตร จานวนใบมากที่สุด 3.30 ใบต่อชิ้นส่วน การชักนาการเกิดรากบนอาหารสูตร MS เติม NAA ความเข้มข้น 2-3 มิลลิกรัมต่อลิตร 2.4-2.8 รากต่อชิ้นส่วน เมื่อนาไปอนุบาลให้การรอดชีวิต 85 เปอร์เซ็นต์ หลังอนุบาลเป็นเวลา 1 เดือน ดังนั้นวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจึงถือเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์ไม้ผลพื้นเมืองได้เป็นอย่างดี โครงการวิจัย การพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้พื้นเมืองอบแห้ง มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบสร้างระบบการอบแห้งด้วยรังสีอินฟราเรดร่วมกับลมร้อน และพัฒนากระบวนการผลิตผลไม้พื้นเมืองอบแห้งและผลิตภัณฑ์ผลไม้พื้นเมืองอบแห้ง รวมทั้งพัฒนาผลิตภัณฑ์และส่งเสริมให้กลุ่มวิสาหกิจชุมชนสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ผลไม้พื้นเมืองอบแห้งให้มีคุณภาพได้ ระบบอบแห้งที่สร้างขึ้นเป็นระบบอบแห้งแบบกึ่งอัตโนมัติ (ออนไลน์) ด้วยอินฟราเรดไกลร่วมกับลมร้อน ที่มีขนาดห้องอบแห้ง กว้าง 50 เซนติเมตร ลึก 60 เซนติเมตร สูง 48 เซนติเมตร จานวน 2 ห้อง และมีตู้ควบคุมการทางานของระบบเชื่อมต่อกับตู้ IoT Controller ที่เขียนคาสั่งผ่านบอร์ด Model: IoT CTL-08 ให้ระบบบันทึกข้อมูลอุณหภูมิและความชื้นของลมร้อนในระบบอบแห้งและอากาศแวดล้อมขาเข้า โดยติดตั้งเซนเซอร์ในท่อลมทั้งหมด 8 จุด โดยให้ค่าอุณหภูมิที่วัดได้จากเซนเซอร์ในช่องกระจายลมร้อนเป็นตัวสั่งการทางานเปิด-ปิดชุดฮีตเตอร์ไฟฟ้า และค่าอุณหภูมิจากเซนเซอร์ที่อยู่ด้านบนถาดตะแกรงสแตนเลส เป็นตัวสั่งการทางานเปิด-ปิดชุดอินฟราเรดไกล (1,600 W จานวน 2 หลอด) และมีดิมเมอร์ปรับการใช้กระแสไฟฟ้าของชุดอินฟราเรดไกลในห้องอบแห้ง ระบบอบแห้งมีความแม่นยา สามารถสั่งการ/แก้ไข ดูข้อมูลการทางาน (ปัจจุบันและย้อนหลัง) ของอุปกรณ์และเซนเซอร์อุณหภูมิและความชื้นในระบบอบแห้งผ่านแอปฟลิเคชัน IoT SPC บนโทรศัพท์มือถือได้ ผลการทดลองพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยใช้เทคนิคการอบแห้งด้วยอินฟราเรดไกลร่วมกับลมร้อน (70-90oC) แบบปรับลดระดับอุณหภูมิ โดยใช้โฟมที่มีความหนาเริ่มต้น 3 มิลลิเมตร ความชื้นเริ่มต้นแผ่นโฟม 271-417 % ฐานแห้ง (เนื้อทุเรียนหรือเนื้อจาปาดะปั่นละเอียด 49.5 % โฟมไข่ขาว 49.5 % และผงบุก 1 %) จนกระทั่งได้แผ่นโฟมอบแห้งที่มีความชื้นสุดท้ายไม่เกิน 4.0 % ฐานแห้ง พบว่า สีแผ่นโฟมทุเรียนบ้านอบแห้งและสีแผ่นโฟมจาปาดะอบแห้งที่ได้คือ สีเหลืองอ่อน และสีเหลืองเข้ม ตามลาดับ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แผ่นโฟมอบแห้งที่มีคุณภาพสูงและมีความกรอบ คาสาคัญ: ไม้ผลพื้นเมือง การเพิ่มประสิทธิภาพ เทคนิคขยายพันธุ์ ผลิตภัณฑ์ผลไม้อบแห้ง |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | รศ. วัฒนา ณ นคร | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 34 |
2 | ปิติพัฒน์ บุตรโคตร | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 33 |
3 | สกุลรัตน์ หาญศึก | คณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 33 |