พัฒนาศักยภาพการผลิตและเลี้ยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการหอยนางรมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนสู่เชิงพาณิชย์

Development of Production Potential and Rearing for Increase Efficiency of Oyster Management with Innovation and Energy Technology to Commercial

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2566
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2565
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2566
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 พฤศจิกายน 2565
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ พัฒนาศักยภาพการผลิตและการเลี้ยงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการหอยนางรมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานทดแทนสู่เชิงพาณิชย์ สุพัชชา ชูเสียงแจ้ว1 สุวัจน์ ธัญรส2 จันทรา อุ้ยเอ้ง3 ศิลปชัย เสนารัตน์2 กัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ์2 และเดือนรุ่ง ช่วยเรือง3 บทคัดย่อ จากการศึกษาพิจารณาสัณฐานวิทยาภายนอกและภายใน ตลอดจนจุลกายวิภาคโดยรวมตามภาพตัดตามยาวของหอยนางรม พบการจัดเรียงด้วยหลายอวัยวะ อาทิ เหงือก เมนเทิล อวัยวะสร้างเซลล์สืบพันธุ์ กระเพาะอาหาร และต่อมย่อยอาหาร ซึ่งจากการตรวจสอบการย้อมสี H และ E staining, GMS ย้อม ภายใต้กล้องจุลทรรศน์แบบใช้แสงและกล้อง TEM ไม่พบการแทรกหรือการปรากฏของเชื้อรา และใช้เทคนิค TUNEL ก็ไม่พบการตายของเซลล์ แสดงให้เห็นว่าพ่อแม่พันธุ์มีสุขภาพแข็งแรง ไม่มีรอยโรค จากการปรับสภาพพ่อแม่พันธุ์หอยนางรมด้วยสัดส่วนแพลงก์ตอนพืชต่อสาหร่ายสายใบ (Porphyra sp.) ดังนี้ 100, 25 และ 50 เปอร์เซ็นต์ พบว่า ไม่มีความแตกต่างทั้งด้านน้ำหนัก ความกว้างและความยาวเปลือก ส่วนค่าดัชนีความสมบูรณ์เพศและอัตราการรอดตายของพ่อแม่พันธุ์หอยนางรม พบว่า ชุดการทดลองที่ปรับสภาพด้วยแพลงก์ตอนพืช 100 เปอร์เซ็นต์ มีค่าดัชนีความสมบูรณ์และอัตราการรอดตายดีที่สุด จากการนำพ่อแม่พันธุ์จากการปรับสภาพด้วยสัดส่วนแพลงก์ตอนพืชต่อสาหร่ายสายใบที่แตกต่างกัน 3 ระดับ มากระตุ้นการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ด้วยระบบกระตุ้นแบบอุณหภูมิร้อน-เย็น โดยขณะที่ทำการกระตุ้นใช้อุณหภูมิ 25±5 องศาเซลเซียส พบว่า พ่อแม่พันธุ์ที่สมบูรณ์เพศทยอยปล่อยเซลล์สืบพันธุ์แต่ในปริมาณน้อย โดยจะเริ่มมีการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ในช่วงของการกระตุ้นรอบที่ 2 และ 3 จากการดำเนินการพบว่า ความดกไข่ และอัตราการฟัก จะพบในสัดส่วนของพ่อแม่พันธุ์ที่ปรับสภาพด้วยแพลงก์ตอนพืช 100 เปอร์เซ็นต์ สูงกว่าสัดส่วนของแพลงก์ตอนพืช 25 และ 50 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลสัมพันธ์กันกับผลของการอนุบาลลูกหอยนางรมหลังจากการกระตุ้นการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ พบว่า อัตราการเจริญเติบโตทั้งด้านความกว้างและความยาวของลูกหอยและอัตราการรอดตายของลูกหอยที่มาจากพ่อแม่พันธุ์จากการปรับสภาพด้วยแพลงก์ตอนพืช 100 เปอร์เซ็นต์ มีค่าที่ดีที่สุด ตลอดระยะเวลาที่ทำการอนุบาลในโรงเพาะฟัก จากการศึกษาต้นทุนและความคุ้มค่าทางด้านเศรษฐศาสตร์ของการดำเนินการเพาะพันธุ์และอนุบาลลูกหอยนางรมในโรงเพาะฟัก พบว่า การผลิตลูกหอยที่ผ่านมาที่ดำเนินการโดยการผสมเทียม จะให้ผลผลิตที่ต่ำ มีกำไรสุทธิเท่ากับ -1.28 บาทต่อตัว โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากับ -29.93 และเมื่อมีการปรับสภาพพ่อแม่พันธุ์อย่างต่อเนื่องและนำมากระตุ้นผ่านระบบการปล่อยเซลล์สืบพันธุ์ พบว่า ให้ผลผลิตที่สูงขึ้นและมีสุขภาพแข็งแรง โดยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1.24 บาทต่อตัว โดยมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) เท่ากับ 69.97
รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ.ดร. สุพัชชา ชูเสียงแจ้วคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังหัวหน้าโครงการ45
2เดือนรุ่ง ช่วยเรืองคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
3ผศ. จันทรา อุ้ยเอ้งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย10
4กัตตินาฏ สกุลสวัสดิพันธ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
5ผศ.ดร. ศิลปชัย เสนารัตน์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15
6รศ.ดร. สุวัจน์ ธัญรสคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย5

บทความวารสาร

ที่ ชื่อบทความ วารสาร/หนังสือ ที่ตีพิมพ์ ระดับบทความ ฐานข้อมูลที่ตีพิมพ์ วันที่ตีพิมพ์
1Health evaluation of the sexually mature Crassostrea belcheri (G.B. Sowerby II, 1871) in an enclosed rearing conditionScienceAsiaระดับนานาชาติOthers1 กุมภาพันธ์ 2568