การประเมินความเสี่ยงจากการได้รับโลหะหนักจากการบริโภคกุ้ง อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช

Risk assessment of heavy metal exposure from shrimp consumption, Pak Phanang District, Nakhon Si Thammarat Province

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2566
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการพื้นฐาน
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2565
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2566
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2565
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและการเติบโตของชุมชนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม เกิดการปนเปื้อนมีสารพิษตกค้างในดิน น้ำและตะกอนใต้พื้นดิน โดยเฉพาะโลหะหนักเป็นสารที่มีพิษสูงต่อสิ่งมีชีวิต ไม่สามารถสลายตัวได้เองตามธรรมชาติ สามารถสะสมในสิ่งแวดล้อมและในเนื้อเยื่อสัตว์น้ำ เช่น กุ้ง ปู ปลาและหอย ซึ่งเป็นอาหารหลักของมนุษย์ได้ เมื่อมนุษย์บริโภคสัตว์น้ำเหล่านี้เข้าไปก็จะรับสารพิษนี้เข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าการปนเปื้อนของโลหะหนักในแหล่งน้ำ ส่งผลกระทบทั้งในแง่คุณภาพน้ำ สัตว์น้ำ รวมถึงผู้บริโภคด้วย ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมชุมชนและการตกค้างของโลหะหนัก สารพิษ กากของเสีย เป็นปัญหาที่กำลังทวีความรุนแรงและเป็นข้อจำกัดของการพัฒนาประเทศในอนาคต โดยเฉพาะบริเวณอ่าวปากพนังหรืออ่าวนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มีลักษณะภูมิศาสตร์ทางกายภาพเป็นอ่าวตื้น (กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม, 2545) มีลักษณะของน้ำเป็นทั้งน้ำกร่อยและน้ำเค็ม สถานการณ์คุณภาพน้ำทะเล ปีพ.ศ. 2563 ประเมินโดยดัชนีคุณภาพน้ำทะเล (Marine Water Quality Index ; MWQI) พบว่า บริเวณปากแม่น้ำปากพนัง อำเภอปากพนัง คุณภาพน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์พอใช้ แต่เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานคุณภาพน้ำทะเล ประเภทที่ 1 พบว่า ไม่เป็นไปตามประเภท การใช้ประโยชน์ที่กำหนด พารามิเตอร์ที่บ่งชี้ ปัญหาคุณภาพน้ำ คือ ฟอตเฟต-ฟอสฟอรัส ไนเตรท-ไนโตรเจน และแบคทีเรียกลุ่มฟีคอลโคลิฟอร์ม (FCB) บริเวณปากแม่น้ำปากพนัง ซึ่งมีค่าสูงกว่ามาตรฐานที่กำหนด (กรมควบคุมมลพิษ, 2563) อ่าวปากพนังเป็นแหล่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ รอบอ่าวเป็นป่าชายเลน วิถีชีวิตของชุมชนประมงรอบอ่าวปากพนัง มีการประกอบอาชีพทำการประมงพื้นบ้าน โดยใช้ภูมิปัญญาและเครื่องมือประมงพื้นบ้านในการจับสัตว์น้ำและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากป่าชายเลน เป็นกลุ่มชาวประมงหลักของจังหวัด อาศัยกันเป็นชุมชนชาวประมงหรือหมู่บ้าน ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งคลองสองปากแม่น้ำที่มีเขตติดต่อกับชายฝั่งทะเล เครื่องมือที่ใช้ เช่น อวนลอยปลา อวนจมปูม้า อวนจมปลาทู อวนจมกุ้ง เป็นต้น มีจำนวนชุมชนชาวประมงประมาณ 96 ชุมชน จำนวนชาวประมงที่ขึ้นทะเบียน 4,500 ราย (สำนักงานประมงจังหวัดนครศรีธรรมราช, 2564) จากอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากร และการบุกรุกและทำลายพื้นที่ป่าชายเลนทำให้ป่าชายเลนได้ถูกเปลี่ยนสภาพไปอย่างรวดเร็ว จากจำนวน 96,875 ไร่ ใน พ.ศ 2518 เหลือเพียง 48,012ไร่ ใน พ.ศ. 2535 รวมทั้งการใช้เครื่องมือดักจับสัตว์ที่ผิดวิธี มีความทันสมัยมากขึ้น และหนาแน่นจนเกินไป การใช้สารเคมีที่มีพิษในการจับสัตว์น้ำ ขยะมูลฝอยจากบ้านเรือน การสร้างส้วมริมฝั่งคลอง คราบน้ำมันจากเรือประมง น้ำเสียจากร้านค้า บ้านเรือน รวมทั้งสถานที่ราชการและโรงงานอุตสาหกรรมที่ระบายผ่านท่อน้ำทิ้งลงสู่อ่าวปากพนัง ทำให้เกิดผลกระทบต่อปัญหามลพิษสิ่งแวดล้อมและคุณภาพของสัตว์น้ำได้ ปัจจุบันอาหารทะเลยังคงได้รับความนิยมบริโภคจากประชาชน โดยเฉพาะกุ้ง เนื่องจากเป็นแหล่งของโปรตีนและแร่ธาตุที่สำคัญ เช่น ไอโอดีน ซึ่งช่วยป้องกันโรคคอพอกได้ การศึกษาการปนเปื้อนของโลหะหนักในกุ้งทะเลที่เป็นสัตว์พื้นถิ่นในภาคใต้เหล่านี้จึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อเป็นข้อมูลด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ได้รับความนิยมในการบริโภค จากปัญหาดังกล่าวจึงได้ทำงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาหาปริมาณโลหะหนัก ได้แก่ ปรอท ตะกั่ว และแคดเมียม ที่สะสมอยู่ในกุ้งขาว บริเวณอ่าวปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และประเมินความเสี่ยงจากการได้รับโลหะหนักจากการบริโภคกุ้งขาว เพื่อเป็นข้อมูลแจ้งเตือนความปลอดภัยในการบริโภคกุ้งขาวต่อผู้บริโภคและเป็นข้อมูลพื้นฐานนำไปสู่การจัดการน้ำและสิ่งแวดล้อมบริเวณอ่าวปากพนังที่มีประสิทธิภาพต่อไป
รายละเอียดการนำไปใช้งาน 11.1 ด้านวิชาการ เพื่อเป็นข้อมูลแจ้งเตือนความปลอดภัยในการบริโภคกุ้งขาวต่อผู้บริโภคและเป็นข้อมูลพื้นฐานนำไปสู่การจัดการน้ำ ของเสียและสิ่งแวดล้อมบริเวณอ่าวปากพนังที่มีประสิทธิภาพต่อไป 11.2 ด้านนโยบาย เศรษฐกิจ/พาณิชย์ อุตสาหกรรม สร้างศักยภาพและความสามารถเพื่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจโดยการวิจัยเพื่อเป็นข้อมูลพื้นฐานในการจัดการทรัพยากร เนื่องจากกุ้งขาวเป็นสัตว์เศรษฐกิจ ที่ได้รับความนิยมในการบริโภค และเป็นสัตว์พื้นถิ่นในภาคใต้ ทำให้เพิ่มมูลค่าทางธุรกิจอาหารทะเลในจังหวัดนครศรีธรรมราช 11.3 ด้านสังคมและชุมชน สร้างคุณค่าและความเชื่อมั่นในคุณภาพอาหารทะเล และสร้างโอกาสความสัมพันธ์ในชุมชนให้กับชาวประมง ผู้ประกอบการและผู้บริโภคอาหารทะเลในจังหวัดนครศรีธรรมราชเพิ่มมากขึ้น
เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ผศ. รัตติยา สารดิษฐ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ80
2ผศ. สุภามาส อินทฤทธิ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20