โครงการวิจัย
การพัฒนาเส้นทางและกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช
Creative Tourism Route and Activities Development in Chang Klang District, Nakhon Si Thammarat Province
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2565 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2564 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2565 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 กุมภาพันธ์ 2565 |
ประเภททุนวิจัย | ทุน ววน. |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาแรงจูงใจและพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวที่มีต่อการท่องเที่ยวในอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช 2. เพื่อศึกษาศักยภาพในการแข่งขันของการท่องเที่ยวในอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช 3. เพื่อปรับปรุงเส้นทางการท่องเที่ยวอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช และ 4. เพื่อพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมเป็นแบบสอบถาม ซึ่งมีกลุ่มตัวย่างที่ใช้ในการศึกษาสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณเป็นนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในอำเภอช้างกลาง ในจังหวัด 400 ตัวอย่าง และในการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพจะเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ตามคุณสมบัติที่ผู้วิจัยกำหนด จำนวน 5 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาพฤติกรรมการท่องเที่ยวต่อแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธา อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์ของการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว จำนวน 280 คน คิดเป็นร้อยละ 70.0 ส่วนใหญ่เดินทางมากับครอบครัว จำนวน 360 คน คิดเป็นร้อยละ 90 จำนวนวันที่เดินทางมาท่องเที่ยว จำนวน 1 วัน จำนวน 240 คน คิดเป็นร้อยละ 60 มีความถี่ในการเดินทาง 1-2 ครั้งต่อปี จำนวน 280 คน คิดเป็นร้อยละ 70 รูปแบบที่พักจะพักบ้านญาติ จำนวน 140 คน คิดเป็นร้อยละ 35 วิธีการจองห้องพักจะเดินทางเข้ามาจอง จำนวน 200 คน คิดเป็นร้อยละ 50 และทราบข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวเชิงศรัทธาผ่านทางญาติ จำนวน 170 คน คิดเป็นร้อยละ 42.5 2. . ผลการศึกษาระดับแรงจูงใจของนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงศรัทธา อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราชโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และมีรายละเอียดดังนี้ นักท่องเที่ยวต้องการมากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ พักผ่อนหย่อนใจ ตามด้วยศึกษาประวัติศาสตร์ของอำเภอช้างกลาง และศึกษาจริยวัตรของพ่อท่านคล้าย ตามลำดับ 3. การศึกษาระดับความคิดเห็นต่อขีดความสามารถในแข่งขันของการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา อำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราชในภาพของทั้ง 4 ปัจจัยอยู่ในระดับมาก ทั้งในปัจจัยด้านสภาวะแวดล้อม ปัจจัยความต้องการของตลาด ปัจจัยอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องและสนับสนุน และปัจจัยกลยุทธโครงสร้างและการแข่งขัน |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | 1.ได้ต้นแบบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวอำเภอช้างกลาง จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมทั้งเป็นแนวทางสำหรับชุมชน ผู้ประกอบการ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสำหรับการเตรียมความพร้อมและการมีบทบาทในการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้มีความชัดเจน ยั่งยืนและเป็นประโยชน์ต่อชุมชน 2. ประโยชน์ทางการจัดการการท่องเที่ยวแก่ผู้ประกอบการ นำชุมชน หน่วยงานราชการ เช่น ผู้บริหารองค์กรบริหารส่วนตำบล อำเภอหรือระดับจังหวัดสามารถนำองค์ความรู้ที่ได้จากการศึกษาวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการกำหนดแนวทางการพัฒนาการจัดการการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความคิดเห็นและความต้องการของชุมชน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการพัฒนาการท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | บุปผชาติ แต่งเกลี้ยง | คณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 50 |
2 | มัณฑนา แดงเพชร | คณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |
3 | นิเฟาซาน ระเด่นอาหมัด | คณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |
4 | ดร. ณัฏฐ์วรดี คณิตินสุทธิทอง | คณะเทคโนโลยีการจัดการ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 30 |