โครงการวิจัย
การขยายผลเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อการผลิตผ้าพื้นเมืองคุณภาพพิเศษในพื้นที่ภาคใต้
Extension of suitable technology for the production of local quality fabrics in south Thailand
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2566 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2565 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2566 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 เมษายน 2566 |
ประเภททุนวิจัย | ทุน บพท. |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | AT66003 |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | วัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้งนี้เพื่อขยายผลทางเทคโนโลยีที่มีอยู่ขยายผลเทคโนโลยีนาโน 5 ชนิด กับ 1 การย้อมสีธรรมชาติ ประกอบด้วย 1) ผ้ายับยั้งแบคทีเรีย 2) ผ้าไม่ชอบน้ำ 3) ผ้าปรับนุ่ม 4) ผ้าต้านรังสียูวี 5) ผ้ากลิ่นหอม 6) การย้อมสีธรรมชาติ ไปยังชุมชนทอผ้า 4 แห่งในภาคใต้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมนวัตกรรมการทอผ้าและย้อมสีธรรมชาติให้เพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน ขยายไปใน 4 พื้นที่ได้แก่ 1) ชุมชนผ้าทอนาหมื่นศรี จังหวัดตรัง 2) ชุมชนผ้าทอลานข่อย จังหวัดพัทลุง 3) ชุมชนผ้าทอล่องมุด จังหวัดสงขลา 4) วิสาหกิจชุมชนดรุณีสีธรรมชาติเพื่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยวบ้านไม้หลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยถ่ายทอดเทคโนโลยีนาโนแก่ชุมชนทอผ้า พัฒนากระบวนการย้อมสีธรรมชาติด้วยเอนไซม์และดินขาว สนับสนุนการออกแบบผ้าทอแนวใหม่ สร้างเครือข่ายกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและพัฒนาช่องทางการตลาด สำหรับการทอผ้าได้มีการถ่ายทอดด้านการทอผ้าในรูปแบบที่แต่ต่างจากเดิม ด้านสี ด้านการกระทบของกี่ เป็นต้น เพื่อให้ทันสมัยตามกาลสมัย สำหรับกลุ่มที่ย้อมสีธรรมชาตินวัตกรรมที่จะสนับสนุนคือกระบวนการและเทกนิคการย้อมสีให้สีติดทนผ้าได้ระดับดีด้วยการใช้เอนไซม์และการใช้ดินขาวที่มีปริมาณซิลิกาที่เหมาะสม ทำให้ชุมชนทอผ้าทั้ง 4 แห่งสามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนาโนกับผ้าทอได้ เกิดนวัตกรด้านผ้าทอและย้อมสีธรรมชาติมากกว่า 40 คน ผ้าทอที่มีนวัตกรรมมีราคาขายสูงขึ้น ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เกิดเครือข่ายสนับสนุนชุมชนทอผ้า ซึ่งทางทีมนักวิจัยได้มีภาคีร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในการช่วยสนับสนุนกลุ่มทอผ้าและกลุ่มย้อมสีธรรมชาติ ได้แก่ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน เป็นต้น สำหรับการการตลาดได้มีการขายทั้งที่ผลิตและทั้งออนไลน์ ทั้งในพื้นที่ในจังหวัดที่ผลิตและต่างจังหวัด และได้ทำการลงสื่อโฆษณาต่างๆด้วย ทั้งนี้นักวิจัยได้เขียนหนังสือเป็นการรวบรวมวิธีการ เกี่ยวกับนวัตกรรมด้านผ้าที่ทางกลุ่มสามารถอ่านและเรียนรู้ได้ตลอดไปนักวิจัยยังคงติดตามและร่วมมือกับกลุ่มผลิตผ้าร่วมกับ สวทช. อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กลุ่มมีความเข็มแข็งตลอดไป นอกจาก 4 พื้นที่ดังกล่าวแล้วเมื่อทำการขยายผลจนสำเร็จเป็นประจักษ์ทำให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดนครศรีธรรมราชเชิญนักวิจัยให้ไปส่งเสริมเพิ่มขึ้นอีกจำนวน 8 กลุ่ม ของจังหวัดนครศรีธรรมราช การขยายผลนั้นทำให้ชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิมและมีนวัตกรเพิ่มขึ้นด้วย สามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับกลุ่มต่างๆ ได้ และสามารถถ่ายทอดองค์ความรู้ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างเห็นได้ชัดคือสำนักงานวัฒนธรรม สำนักงานพัฒนาชุมชน สมาคมการท่องเที่ยว ที่ได้ให้การส่งเสริมให้ขยายวงกว้างในการช่วยเหลือกลุ่มวิสาหกิจที่ยังต้องการความช่วยเหลือ งานวิจัยโครงการขยาผลทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมนี้ นักวิจัยได้ร่วมมืออย่างเต็มที่ไม่เพียงแค่ 4 ชุมชนที่ได้เสนอไปในขอบเขตการวิจัย แต่ผลการขยายในครั้งนี้ครอบคลุมมากว่า 8 ชุมชนไปแล้ว รวมพื้นที่ มากกว่า 8 อำเภอ การขยายผลเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสิ่งทอสามารถสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนทอผ้าในภาคใต้ ผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเทคโนโลยีนาโนในการยกระดับคุณภาพผ้าทอ เพิ่มมูลค่าสินค้า และสร้างรายได้ให้กับชุมชน การศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และชุมชน ในการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ดร. มาหามะสูไฮมี มะแซ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | ผศ. พันธ์ยศ วรเชฐวราวัตร์ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |
3 | มณิฐชญาณ์ ศิลาวงสกุลล์ | สถาบันการจัดการเทคโนโลยีและนวัตกรรมเกษตร (สท.) | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
4 | ผศ. พรโพยม วรเชฐวราวัตร์ | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 10 |