พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการด้วยกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดพริกไทยตรังสู่ตลาดระดับพรีเมียม

Strategic entrepreneurs potential development to promote Trang pepper to premium market.

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2565
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการชุด
ประเภทงานวิจัย โครงการวิจัยและพัฒนา
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2564
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2565
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 16 พฤษภาคม 2565
ประเภททุนวิจัย ทุน บพท.
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญาA13F650185
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ

จากการดำเนินงานวิจัยพริกไทยตรังในปี 2564 ได้ดำเนินการเติมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้มี ศักยภาพและมีทักษะในด้านต่างๆ เช่น การจัดการแปลง มาตรฐานกระบวนการผลิต/สถานที่ผลิต มาตรฐาน สถานที่ผลิต และการจัดการบัญชีและการเงิน มีการสร้าง Knowhow ได้แก่ เครื่องมือหรือสื่อการเรียนรู้เพื่อให้ ผู้ประกอบการหรือผู้สนใจปลูกพริกไทยสามารถนำไปใช้หรือไปศึกษาเพิ่มเติมได้ในภายหลัง ซึ่งโครงการวิจัยนี้ได้ จัดทำคู่มือจำนวน 3 เล่ม ได้แก่ คู่มือการจัดการแปลงพริกไทยตรังพันธุ์ปะเหลียนตามมาตรฐานการปฏิบัติทาง การเกษตรที่ดี คู่มือการตรวจสอบคุณภาพ คู่มือเริ่มต้นสำหรับผู้สนใจปลูกพริกไทย มีการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยใน การผลิต และการบริหารจัดการธุรกิจพริกไทย โดยงานวิจัยครั้งนี้ได้นำตู้ตากพริกไทยและเครื่องแยกเมล็ดออกจาก ช่อผลมอบให้แปลงต้นแบบ รวมถึงการสร้าง Application สำหรับการเก็บข้อมูลพื้นฐานของเกษตรกรผู้ปลูก พริกไทย และมีการผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการพริกไทยที่มีความรู้ความสามารถในการบริหารจัดการธุรกิจของ ตนเองได้ โดยคณะผู้วิจัยได้เพิ่มทักษะการเป็นผู้ประกอบการและกลยุทธ์ทางการตลาด รวมถึงการจับคู่ธุรกิจโดยมี นักวิจัยคอยเป็นพี่เลี้ยง และพาผู้ประกอบการรุ่นใหม่สู่เวทีการเจรจาการค้า จากการการวิเคราะห์การดำเนินงาน ในปี 2564 พบว่ามีช่องว่างในการขับเคลื่อนงานพริกไทยตรังสู่ตลาดแข่งขัน ดังนี้ 1) หลังจากการดำเนินงานวิจัย เสร็จสิ้น นักวิจัยได้ดำเนินการสำรวจการรับรู้ของพริกไทยตรังของผู้บริโภคมีจำนวนร้อยละ 40 ที่รู้จักพริกไทยตรัง และร้อยละ 60 ไม่รู้จักพริกไทยตรัง จากเดิมก่อนดำเนินโครงการวิจัยในปี 2564 ผู้บริโภคไม่รู้จักพริกไทยตรัง ร้อย ละ 69.44 ปรากฏว่าหลังจากเสร็จสิ้นโครงการผู้บริโภครู้จักพริกไทยตรังเพิ่มขึ้นแค่ร้อยละ 9.44 เท่านั้น 2) ราคา ขายพริกไทยตรัง ผู้บริโภคยอมรับได้ร้อยละ 35 (พริกไทยทั่วไปในท้องตลาดราคา 200-250 บาท พริกไทยตรัง ราคา 350-500 บาท) และร้อยละ 65 ผู้บริโภคให้ความคิดเห็นว่าราคาสูงกว่าท้องตลาดส่งผลให้ผู้บริโภคเลือกใช้ พริกไทยที่มีราคาต่ำกว่าพริกไทยตรัง และ 3) พริกไทยตรังมีตลาดเป้าหมายเพียงร้อยละ 11 ซึ่งขายให้กับร้านขนม ที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองตรัง และลูกค้าประจำทั้งในและนอกจังหวัดตรัง และร้อยละ 89 ยังไม่มีตลาดเป้าหมาย จากปัญหาดังกล่าว การที่พริกไทยตรังจะสามารถขายได้ในตลาดทั่วไปได้จะต้องมีราคาไม่เกิน 250 บาท ซึ่ง ผู้ประกอบการไม่สามารถขายพริกไทยตรังในราคาดังกล่าวได้ เนื่องจากในการผลิตและแปรรูปพริกไทยตรัง ผู้ประกอบการจะมีต้นทุนในการผลิตเฉลี่ยกิโลกรัมละ 242 บาท ส่งผลให้ผู้ประกอบการพริกไทยไม่สามารถขายใน ตลาดทั่วไปได้ เพราะจะขาดทุน จากปัญหาดังกล่าวข้างต้นจำเป็นจะต้องวางกลยุทธ์ทางการตลาดโดยการแบ่งกลุ่มลูกค้า (Segmentation) ตามกำลังซื้อของลูกค้า พริกไทยตรังจำเป็นต้องหาลูกค้ากลุ่มบนที่มีกำลังซื้อสูงหรือที่เราเรียกว่า ตลาดบน (High End Market) และเห็นคุณค่าของพริกไทยตรัง แต่การทำกำไรจากลูกค้าในกลุ่มตลาดบน ไม่สามารถทำได้ด้วยการ ขายในปริมาณมาก ซึ่งทางออกของการทำกำไรจากลูกค้าตลาดบนที่มีอยู่น้อยก็คือ “การทำให้กำไรต่อหน่วยสูง” แทนการขายให้ได้จำนวนมากๆ (เน้นคุณภาพ ไม่เน้นปริมาณ) แต่การที่จะขายพริกไทยตรังในราคาที่แพงกว่า พริกไทยในท้องตลาด ผู้ขายจะต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า (Value Added) เพื่อจะสามารถขายในราคาที่แพง ขึ้นได้ โดยวิธีการคือ 1) สร้างความแตกต่าง (Differentiation) เป็นสินค้าประเภทเดียวกัน แต่มีสิ่งที่ไม่เหมือนใคร หน้า 4 ของ 194 เป็นสินค้าทดแทนที่ดีกว่า รวมทั้งเป็นสินค้าที่ใช้แล้วไม่เหมือนใคร และ 2) คุณภาพสูง (High Quality) ทำให้ ลูกค้ายอมจ่ายมากขึ้นเพื่อใช้สินค้าที่ดีขึ้นกว่าสินค้าแบบเดียวกัน ดังนั้นการที่พริกไทยตรังจะสามารถขายในตลาดบนได้ ผู้ประกอบการต้องทราบความต้องการของกลุ่ม ลูกค้าในตลาดบน จากการสำรวจพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มตลาดบน พบว่า ลูกค้ากลุ่มตลาดบนมีพฤติกรรมการ บริโภคสินค้าดังนี้ (1) บริโภคพริกไทยที่มีเรื่องราวความเป็นมาของชุมชนในการผลิตด้วยภูมิปัญญากว่าจะมาเป็น พริกไทยตรัง (2) ปลูกพริกไทยแบบเลื้อยบนต้นไม้หรือปลูกโดยใช้ค้างไม้ (3) อายุมากกว่า 100 ปีหรือสืบทอด การปลูกพริกไทยมาจากบรรพบุรุษ (4) เป็นผลิตภัณฑ์ของชุมชน (5) เกษตรอินทรีย์ (6) พริกไทยแยกตามสีของ เมล็ด (ดำ แดง ขาว) (7) Low carbon footprint (8) มีใบรับรองมาตรฐาน หรือได้รับรางวัล/มีมาตรฐานการ ผลิตที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล (9) ต้องการทราบอัตลักษณ์ของพริกไทยตรังแตกต่างอย่างไรกับสายพันธุ์อื่น และ (10) ซื้อผ่าน Supplier โดยฝ่ายจัดซื้อของสถานประกอบการ ทั้งนี้ในการดำเนินงานวิจัยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อการยกระดับกระบวนการผลิตพริกไทยตรังพรีเมียม ให้ได้มาตรฐานด้วยอัตลักษณ์และภูมิปัญญา และ2) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถผู้ประกอบการด้วยกลยุทธ์ ส่งเสริมการตลาดพริกไทยตรังสู่ตลาดพรีเมียม ทั้งนี้คณะผู้วิจัยได้มีการออกแบบการยกระดับห่วงโซ่คุณค่าใหม่ (New network value chain) เพื่อช่วยเหลือกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในห่วงโซ่คุณค่าใหม่พริกไทยตรัง โดยใช้ กระบวนการแทรกแซง ดังนี้ Knowledge เป็นการเติมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการเพื่อให้มีศักยภาพและมีทักษะในด้านต่างๆ เช่น การจัดการแปลงเกษตรอินทรีย์การขอรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล (IFOAM, EU, CANADA, NOP/USDA/มอก.) การแปรรูปพริกไทยดำ แดง ขาว โดยใช้อัตลักษณ์และภูมิปัญญา การขอมาตรฐานเกษตร อินทรีย์สากล (IFOAM, EU, CANADA, NOP/USDA/มอก.) การจัดการสินค้าคงคลังของพริกไทยตรัง เกณฑ์ คุณภาพพริกไทยตรังตามความต้องการลูกค้ากลุ่ม Premium-Niche และกระบวนการจัดการกลยุทธ์การตลาด ด้านการส่งเสริมการตลาด Knowhow เป็นการสร้างเครื่องมือหรือสื่อการเรียนรู้เพื่อให้ผู้ประกอบการหรือผู้สนใจปลูกพริกไทย สามารถนำไปใช้หรือไปศึกษาเพิ่มเติมได้ในภายหลัง ซึ่งโครงการวิจัยนี้ได้จัดทำคู่มือจำนวน 3 เล่ม ได้แก่ คู่มือ มาตรฐานการจัดการแปลงเกษตรอินทรีย์คู่มือมาตรฐานการแปรรูปพริกไทยตรังพรีเมียมโดยใช้อัตลักษณ์ และ ภูมิปัญญา เกณฑ์คุณภาพพริกไทยตรังพรีเมียม องค์ความรู้ในการจัดการสินค้า คงคลังของผู้ประกอบการ/บรรจุ ภัณฑ์ที่เหมาะสมในการจัดเก็บพริกไทยตรังพรีเมียม Technology Transfer เป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยในการผลิต และการบริหารจัดการธุรกิจ พริกไทยให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มตลาดบนยิ่งขึ้น โดยงานวิจัยครั้งนี้ได้ใช้เทคโนโลยีอบแห้ง การใช้ พลังงานแบบผสม (hybrid) ที่ควบคู่กับการใชัพลังงานธรรมชาติ เพื่อการประหยัดพลังงาน และการใช้งาน อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาระบบติดตามสภาพอากาศให้กับเกษตรกรเพื่อเสริมระบบการจัดการแปลงให้ สามารถช่วยเหลือเกษตรในการปลูกพริกไทยให้ได้คุณภาพยิ่งขึ้น ต้นแบบการจัดเก็บสินค้าคงคลังให้ได้ มาตรฐาน และสื่อประชาสัมพันธ์ คลิป storydoing ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ หน้า 5 ของ 194 Entrepreneurship เป็นการผลักดันให้เกิดผู้ประกอบการพริกไทยที่มีความรู้ความสามารถในการ บริหารจัดการธุรกิจของตนเองได้ โดยคณะผู้วิจัยได้เพิ่มทักษะการเป็นผู้ประกอบการและกลยุทธ์การส่งเสริม การตลาดโดยการสร้าง content story พริกไทยตรัง รวมถึงการจับคู่ธุรกิจโดยมีนักวิจัยคอยเป็นพี่เลี้ยง และ พาผู้ประกอบการรุ่นใหม่สู่เวทีการเจรจาการค้าตลาดระดับบน 

รายละเอียดการนำไปใช้งาน

1) สามารถขับเคลื่อน LE เป้าหมายทั้งรูปแบบการ ปลูกพริกไทยเกษตรอินทรีย์และปลอดภัย จำนวน 10 กลุ่ม โดยแบ่งเป็นเกษตรกร จำนวน 4 กลุ่ม จำนวน 138 คน กลุ่มวิสาหกิจชุมชน จำนวน 4 กลุ่ม ผู้ประกอบการ จำนวน 2 คน 2) สร้างผลผลิตด้านนวัตกรรม/ เทคโนโลยีได้แก่ ตู้ตากพริกไทยเลียนแบบการตากแบบธรรมชาติระบบติดตามสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อ ผลผลิตพริกไทย ต้นแบบสถานที่แปรรูปพริกไทยตรังพรีเมียม และต้นแบบการจัดเก็บสินค้าคงคลัง 3) ผลผลิต ด้านชุดความรู้คู่มือพริกไทยตรังอินทรีย์4) ผลผลิตด้านการจัดการพื้นที่เกษตร โดยแปลงพริกไทยของ เกษตรกรอยู่ในกระบวนการพิจารณารับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์สากล จำนวน 5 ราย 5) ผลผลิตด้านการ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของกลุ่มวิสาหกิจ/ผู้ประกอบการ มีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.59 6) ผลผลิตด้านมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์หรือสินค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 20-33.33% 7) ผลผลิตด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ผลิตภัณฑ์พริกไทย แดงอินทรีย์และ 8) การขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากเกิดการจ้างงานในพื้นที่เพิ่มขึ้น จำนวน 8 ราย

เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1จันทิวรรณ สมาธิวิทยาลัยการโรงแรมและการท่องเที่ยว ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรังผู้ร่วมวิจัย15