โครงการวิจัย
การมีส่วนร่วมของชุมชนเกี่ยวกับการจัดการระบบการเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในป่าเสม็ด ภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง
Community Participation in Sustainable Utilization System Management in Samet Forest in Rajamangala University of Technology Srivijaya, Trang Campus
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2566 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการต่อเนื่อง |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2565 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2566 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2565 |
ประเภททุนวิจัย | อพ.สธ. |
สถานะโครงการ | สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว) |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | การมีส่วนร่วมของชุมชนเกี่ยวกับการจัดการระบบการเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในป่าเสม็ดภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตตรัง สามารถอภิปรายผลได้ดังนี้ 1. ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นต่อการจัดการระบบการเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในป่าเสม็ดภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตตรัง ผลการศึกษาความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดการระบบการเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนในป่าเสม็ดภายในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย
วิทยาเขตตรัง พบว่า ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นโดยภาพรวมเห็นด้วยต่อการจัดโครงการนี้ โดยด้านความต้องการ
ด้านการเข้าไปใช้ประโยชน์อยู่ในระดับสูง ส่วนด้านการดำเนินการโครงการและการเข้าร่วมโครงการอยู่ในระดับปานกลาง
จากข้อคิดเห็นดังกล่าวสามารถสรุปได้ว่าชุมชนเห็นความสำคัญของการดำเนินการจัดระเบียบการเข้ามาเก็บเห็ดภายในมหาวิทยาลัย
และหากต้องการให้โครงการสำเร็จ จะต้องมีการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นในชุมชนก่อน
ซึ่งการสร้างความร่วมมือให้เกิดขึ้นต้องอาศัยการประสานความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อเข้าไปทำความเข้าใจ
สร้างกฎ กติกา ข้อตกลงที่ไม่ขัดกับวิถีการดำเนินชีวิตประจำวัน
และชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของโครงการ ทั้งหน่วยงานจากภาครัฐ สถาบันการศึกษา
ผู้นำชุมชน ชาวบ้าน เป็นต้น
ซึ่งหากชาวบ้านเข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของโครงการและรับทราบถึงประโยชน์ที่ชุมชนจะได้รับก็มีแนวโน้มที่ชาวบ้านจะให้ความร่วมมือ
แต่หากไม่เข้าใจรายละเอียด ขาดความชัดเจนในการมีส่วนร่วม
ก็มีแนวโน้มที่โครงการจะประสบความล้มเหลว ซึ่งสอดคล้องกับ Ratchathawan (2018)
ที่กล่าวว่าความสำเร็จของกระบวนการมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับองค์ประกอบหลายด้าน อาทิ
ศักยภาพของประชาชนในชุมชน ความสัมพันธ์ของประชาชนในชุมชน
การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน สถาบันทางสังคม ในชุมชน ทั้งภาครัฐและเอกชน
รวมถึงความสามารถในการวิเคราะห์สถานการณ์ต่าง ๆ ของชุมชน
และองค์ประกอบที่ส่งผลต่อความสำเร็จของการมีส่วนร่วมสำคัญที่สุด คือ
ระดับการมีส่วนร่วมของประชาชนในบริบทของสังคมไทย
ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ความต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อตกลง กฎกติกา ระเบียบ
จากการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างมีความต้องการมีส่วนร่วมในการกำหนดข้อตกลง
กฎกติกา ระเบียบ ในระดับสูง และเมื่อวิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่ามีความต้องการมีส่วนร่วมในการการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
และด้านดำเนินโครงการในระดับปานกลาง
ส่วนด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์และการประเมินอยู่ในระดับสูง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ
ด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ ซึ่งสอดคล้องกับการวิจัยของ Chansong (2001)
ได้ศึกษาวิจัยการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล
อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้คือความคาดหวังผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการมีส่วนร่วม
รองลงมาคือ ด้านความต้องการ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากกลุ่มตัวอย่างเป็นกลุ่มคนที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงและมีส่วนได้ส่วนเสียกับโครงการ
ดังนั้น ในการกำหนดแนวทางการดำเนินงานหรือข้อตกลงต่าง ๆ
จึงต้องการมีส่วนร่วมในการให้ความเห็นชอบและรับทราบรายละเอียดในแต่ละเรื่องด้วย
เพื่อให้ตรงกับความต้องการของชุมชนและไม่เกิดปัญหากันในภายหลัง ซึ่งสอดคล้องกับ Uejongprasit (2008) ได้กล่าวถึงสาระสำคัญของการมีส่วนร่วมของบุคลากรว่าหมายถึง
การเปิดโอกาสให้บุคลากรเข้ามามีส่วนร่วมในการคิดริเริ่ม ตัดสินใจในการปฏิบัติงานและการร่วมรับผิดชอบในเรื่องต่างๆ
อันมีผลกระทบมาถึงตัวของบุคลากรเอง และด้านการดำเนินการโครงการและการเข้าร่วมโครงการ ซึ่งเป็นประเด็นนี้เปรียบเสมือนกับการกำหนดกฎ
กติกา ข้อตกลง รวมทั้งแนวทางในการปฏิบัติที่จะต้องการสร้างความเข้าใจร่วมกัน
ดังนั้น จากผลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าเมื่อเห็นด้วยกับการจัดตั้งโครงการฯ
และก่อนจะดำเนินการใดๆ จะต้องชี้แจงรายละเอียด ข้อตกลง
และสร้างความเข้าใจร่วมกันให้ครบทุกฝ่ายก่อนเสมอทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดข้อขัดแย้งขึ้นในภายหลัง
ซึ่งสอดคล้องกับ สำนักส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน Royal Irrigation
Department Ministry of Agriculture
and Cooperatives (2012) ที่กล่าวว่าการมีส่วนร่วมในระดับให้อำนาจแก่ประชาชน
(Empower) ถือเป็นขั้นที่ให้ประชาชนมีส่วนร่วมสูงที่สุด เป้าหมายคือ
การให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจลงมือด้วยตนเอง รูปแบบการมีส่วนร่วม คือ
การลงประชามติ และการแก้ไขปัญหา ความขัดแย้งโดยกระบวนการประชาคม
มักเป็นประเด็นที่มีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง ประโยชน์ของการตัดสินใจขั้นนี้
คือการสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน เข้าใจ และมีความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสาร Final Paper(s) |
|
ทีมวิจัย

ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | ผศ. วรรณกร พลพิชัย | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | หัวหน้าโครงการ | 25 |
2 | เจตนา อินยะรัตน์ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |
3 | อนันตนิจ ชุมศรี | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |
4 | ผศ.ดร. อมรรัตน์ อังอัจฉะริยะ | คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการประมง ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |