การประยุกต์ใช้เครื่องหยั่งความลึกต้นทุนต่ำร่วมกับเทคนิคการประมาณค่าช่วง ในการจัดทำแผนที่ภูมิประเทศใต้น้ำ กรณีศึกษา ทะเลสาบสงขลา (ตอนล่าง)

Application of Low-Cost Echo Sounder Surveying Techniques, In Conjunction With Interpolation Methods, For Bathymetry Mapping to Address Shallow Water Source Issues: A Case Study of Songkhla Lake (lower section)

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2568
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการเดี่ยว
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2567
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2568
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 12 กรกฎาคม 2567
ประเภททุนวิจัย งบประมาณรายได้
สถานะโครงการ เบิกงวดที่2
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ

ปัจจุบันพื้นที่ลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลา (ตอนล่าง) ได้รับผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศของโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ดังจะเห็นได้จากการเกิดอุทกภัย การกัดเซาะตลิ่งหรือชายฝั่งทะเล ส่งผลกระทบต่อทั้งระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ ชีวิต และความเป็นอยู่ [1] โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำ (Estuary) ที่ไหลลงสู่แหล่งน้ำ อ่างเก็บน้ำ หรือ ทะเลสาบต่าง ๆ มีผลกระทบจากความตื้นเขินของตะกอนปากแม่น้ำ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตการทำประมง การระบายน้ำ และการสัญจรทางน้ำของคนพื้นที่เป็นอย่างมาก [2] การสำรวจความลึกของแหล่งน้ำมีความสำคัญด้วยเหตุผลหลายประการซึ่งเป็นการระบุตำแหน่งของส่วนต่าง ๆ ที่มีการตกตะกอน ทับถม หรือการกัดเซาะ ซึ่งบ่งบอกถึงกระบวนการสำคัญ และสถานะที่อยู่อาศัยทางชีวกายภาพ

    อย่างไรก็ตามต้นทุนเครื่องมือและอุปกรณ์ด้านการสำรวจทางอุทกศาสตร์มีราคาค่อนข้างสูง เช่น เครื่องหยั่งความลึกหลายความถี่ (Multibeam echo-sounder: MBES) สามารถสร้างแผนที่ความลึกใต้น้ำด้วยความละเอียดสูงและครอบคลุมพื้นที่กว้าง [3] แต่ต้องใช้ทรัพยากรทางการเงินและเทคนิคมากกว่าเครื่องหยั่งความลึกความถี่เดียว (Single-beam echo sounder: SBES) ในทางตรงกันข้ามเครื่องหยั่งความลึกความถี่เดี่ยวจะให้ข้อมูลเชิงพื้นที่ที่จำกัด เนื่องจากทำการวัดเพียงจุดเดียวจากใต้เรือโดยตรง [4] ซึ่งอุปกรณ์ทั้งสองประเภทเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทาง และต้องใช้บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ในปัจจุบันมีเทคนิคการทำงานหลากหลาย ซึ่งเป็นการพยากรณ์ คาดการณ์ หรือทำนายค่าจากข้อมูลจุดตัวอย่างมีอยู่อย่างจำกัด โดยอาศัยจุดข้อมูลที่ทราบค่ามาทำนายด้วยการใช้ทฤษฎีทางคณิตศาสตร์เพื่อสร้างความถูกต้องให้มากขึ้น เนื่องจากการเข้าสำรวจในทุก ๆ พื้นที่ที่อยู่ในพื้นที่ศึกษา เพื่อวัดระดับความสูง ความลึก ขนาด ปริมาณ เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก หรืออาจใช้เวลานานมากเพื่อเก็บสำรวจข้อมูลทุก ๆ จุดในพื้นที่ศึกษาและมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง [5]

          ทั้งนี้พื้นที่บริเวณปากคลองสำโรง ฝั่งทะเลสาบ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต อำเภอเมืองสงขลา จังหวัดสงขลา มีความสำคัญกับชาวสงขลามาแต่อดีต เพราะเป็นลำคลองที่เชื่อมระหว่างทะเลอ่าวไทยกับทะเลสาบสงขลา ทำให้เกิดการหมุนเวียนระหว่างน้ำจืดกับน้ำเค็มเกิดความหลากหลายของระบบนิเวศน์ อีกทั้งมีส่วนสำคัญอย่างมากต่อการระบายน้ำบริเวณตัวเมืองสงขลา และในอดีตยังเป็นเส้นทางเดินเรือเชื่อมสองฝากฝั่งน้ำ ที่หลบลมมรสุมอีกด้วย [10] แต่ในปัจจุบันลำคลองสายดังกล่าวมีปัญหามากมาย ทั้งในเรื่องของน้ำเสีย การรุกล้ำของชาวบ้าน [11] ตลอดถึงลำคลองมีความตื้นเขิน ทั้งในตัวลำคลองและปากคลอง ทำให้การไหลของน้ำมีปัญหาซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ในลำคลอง ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้าน ทางผู้วิจัยเล็งเห็นปัญหาดังกล่าวดังนั้นงานวิจัยนี้จะเสนอแนวทางการประยุกต์ใช้เครื่องหยั่งความลึกต้นทุนต่ำ (Fish Finder Sounder) ร่วมกับการใช้ซอฟท์แวร์ทางด้านภูมิศาสตร์เทคนิคการประมาณค่าช่วง (Interpolation)  ในการจัดทำแผนที่ภูมิประเทศใต้น้ำ[6] ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานสากลขององค์การ IHO (Standards for Hydrographic Surveys) [8] และใช้การกำหนดกลุ่มตัวอย่างตามหลักสถิติของ Yamane [9] [7] และในประเทศไทยยังไม่มีหน่วยงานใดที่นำเครื่องหยั่งความลึกต้นทุนต่ำร่วมกับการใช้ซอฟท์แวร์ด้านภูมิศาสตร์ดังกล่าวมาใช้ในการสำรวจเพื่อทำแผนที่ภูมิประเทศใต้น้ำ เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ปริมาณตะกอน หาแนวทางการชะลอการทับถมของตะกอน และจัดทำแบบทางวิศวกรรมให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน และการพัฒนา คลองสวย น้ำใส ลำดับถัดไป

รายละเอียดการนำไปใช้งาน

-          การทำวิจัยในครั้งนี้เป็นการประยุกต์ใช้เครื่องหยั่งความลึกต้นทุนต่ำ ซึ่งการทดสอบดังกล่าวจำเป็นต้องปฏิบัติจริง ดังนั้นเพื่อให้การทำวิจัยครั้งนี้เกิดประโยชน์สูงสุดในทุก ๆ ด้านทางผู้วิจัยจึงเลือกพื้นที่ปากคลองสำโรง โดยผลลัพธ์จากการศึกษาจะได้แผนที่ภูมิประเทศใต้ท้องน้ำเพื่อนำไปออกแบบทางวิศวกรรม และเพื่อคำนวณปริมาณดินขุดลอกให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เทศบาลเขารูปช้าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ในการแก้ปัญหาความตื้นเขินของลำคลอง การระบายน้ำ ปัญหาน้ำเน่าเสีย และฟื้นฟูระบบนิเวศน์โดยภาพรวม

-          “คลองสำโรง” ตั้งอยู่ในพื้นที่เขตรอยต่อระหว่างเทศบาลนครสงขลาและเทศบาลเมืองเขารูปช้าง ซึ่งปัจจุบันคลองสำโรงมีคุณภาพน้ำที่เสื่อมโทรมมาก สาเหตุเกิดจากชาวบ้านมีการบุกรุก รุกล้ำลำคลองสร้างบ้านเรือนที่อยู่อาศัยอยู่บริเวณคลองสำโรงอย่างแออัด และมีโรงงานที่ตั้งอยู่ใกล้เคียงได้ทิ้งน้ำเสียและสิ่งปฏิกูลลงสู่คลอง โดยเฉพาะบริเวณสะพานเก้าเส้งน้ำไม่สามารถไหลออกสู่อ่าวไทย สภาพน้ำน้อยและไม่ไหลเวียน จึงนำไปสู่การแก้ไขปัญหา จังหวัดสงขลากำหนดให้การแก้ไขปัญหาคลองสำโรง เป็นวาระเร่งด่วนของจังหวัดสงขลาที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาคลองสำโรงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืน และสอดคล้องกับปณิธานแก้ปัญหาความเสื่อมโทรมของแม่น้ำลึกคลอง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 

เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ภูวิศะ กิ้มตั้นคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาหัวหน้าโครงการ70
2ต่อลาภ การปลื้มจิตรคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย20
3จิรวัฒน์ จันทองพูนคณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลาผู้ร่วมวิจัย10