โครงการวิจัย
การพัฒนาผลิตภัณฑ์แชมพูน้ำมันจากน้ำมันปาล์มแดงผสมอนุภาคนาโนพฤกษาสำหรับโรคติดเชื้อผิวหนังในสัตว์เลี้ยง
Development of oil shampoo products from red palm oil mixed with botanical nanoparticles for skin infections in pets
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2568 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการพื้นฐาน |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2567 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2568 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2567 |
ประเภททุนวิจัย | วิจัยสถาบัน |
สถานะโครงการ | ทำสัญญาแล้ว |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | โครงการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ในการนำเอาสารธรรมชาติ (น้ำมันปาล์มแดง) และสมุนไพรไทยพื้นถิ่นทั้ง 2 ชนิด (ทองพันชั่ง และขมิ้นชัน) มาพัฒนากรรมวิธีการสกัดด้วยหลักการเทคโนโลยีสีเขียวหรือ “Green Extraction” นั้นก็คือ
“Microwave extraction” ที่ทำให้ได้สกัดสาระสำคัญได้มาก จากนั้นนำไปเตรียมเป็นอนุภาคนาโนไขมันของสารสกัดสมุนไพรและการทดสอบคุณสมบัติทางเคมีและฤทธิ์ทางชีวภาพ ประกอบด้วย
ฤทธิ์อนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย
และต้านเชื้อรา เพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์แชมพูรูปแบบไขมันสำหรับบำรุงผิวหนังและป้องกันโรคติดเชื้อผิวหนังสำหรับสัตว์เลี้ยง
เนื่องจากโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยงเป็นปัญหาที่สำคัญที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราที่ก่อให้เกิดอาการคันและผิวหนังอักเสบ
วิธีการป้องกันโรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากเชื้อจุลชีพที่เจ้าของสามารถทำได้ง่ายที่สุด
คือ การดูแลความสะอาดด้วยการอาบน้ำและการใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูทำความสะอาด
ซึ่งการอาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงควรอาบ
เดือนละ 1-2 ครั้ง
เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตัวสัตว์เลี้ยงและเป็นการช่วยให้ไม่เกิดโรคผิวหนัง (thonglorpet, 2565) ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคผิวหนัง
โดยปกติแล้วการรักษาสามารถทำได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ
ใช้แชมพูอาบน้ำแบบเฉพาะ หรือการใช้ยาต้านจุลชีพในรูปแบบทาหรือรูปแบบรับประทาน เภสัชภัณฑ์ทางเลือกสำหรับบำรุงผิวหนังและเส้นขน คือ น้ำมันปาล์มแดง
อุดมด้วยสารแคโรทีนอยด์ (carotenoid) วิตามินเอ และวิตามินอีและกรดไขมันในปริมาณสูงที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวหนังและเส้นขน
อีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงทำให้น้ำมันปาล์มแดงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมการผลิตผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
นอกจากนั้นสมุนไพรพื้นถิ่นที่มีศักยภาพสูงและน่าสนใจ คือ ทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus) และขมิ้นชัน
(Curcuma
longa )
เนื่องจากสมุนไพรกลุ่มดังกล่าวมีรายการการศึกษามากมายและพบว่ามีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย
ประกอบด้วย ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ
เป็นต้น โดยการนำมาพัฒนาระบบนำส่งอนุภาคนาโนไขมันของสารสกัดสมุนไพร ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสารธรรมชาติ (น้ำมันปาล์มแดง)
และสมุนไพรไทยพื้นถิ่น (ทองพันชั่ง และขมิ้นชัน)
มีศักยภาพสูงสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้หรือการพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันและรักษาโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยง 3. หลักการและเหตุผล/ปัญหา/โจทย์การวิจัย
สัตว์เลี้ยงในบ้านเป็นที่นิยมเลี้ยงในปัจจุบันเนื่องจากสามารถเป็นเพื่อนและช่วยคลายเครียดแก่เจ้าของได้
แต่อย่างไรก็ตามปัญหาทางสุขภาพที่มักพบบ่อยในสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัขและแมว คือ โรคผิวหนัง (Skin disease) ที่มีสาเหตุมาจากการติดเชื้อจุลชีพ
เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ซึ่งทำให้สัตว์เลี้ยงมีอาการขนร่วง
คันและมีผื่นแดงบนผิวหนัง (พรปวีณ์
ธนรัตน์สุทธิกุล,2020) โดยแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุและพบได้บ่อยที่สุด คือ Staphylococcus
pseudintermedius, Staphylococcus aureus, Staphylococcus
schleiferi, Staphylococcus xylosus ,
Staphylococcus epidermitis และ Streptococcus species ซึ่งทำให้เกิดโรคผิวหนังอักเสบเป็นหนอง
(superficial pyoderma) (Hillier A et
al., 2014) และเชื้อราก่อโรคที่พบได้บ่อยบริเวณผิวหนัง คือ Microsporum canis,
Microsporum gypseum และ Trichophyton mentagrophytes ที่ก่อให้เกิด
Dermatophytosis หรือ ringworm และสามารถติดต่อไปยังมนุษย์ได้ (Segal และ Elad,
2006) และยีสต์ก่อโรคที่พบได้บ่อยบริเวณผิวหนัง คือ Malassezia pachydermatis
ส่วนสปีชีส์อื่นๆ พบได้ในปริมาณน้อยกว่า
เช่น Malassezia nana ในช่องหู หรือ Malassezia slooffiae
บริเวณร่องเล็บ (Nessara, 2022) ซึ่งวิธีการป้องกันโรคผิวหนังที่มีสาเหตุมาจากเชื้อจุลชีพที่เจ้าของสามารถทำได้ง่ายที่สุด
คือ การดูแลความสะอาดด้วยการอาบน้ำและการใช้ผลิตภัณฑ์แชมพูทำความสะอาด
ซึ่งการอาบน้ำให้กับสัตว์เลี้ยงควรอาบ เดือนละ 1-2
ครั้ง
เพื่อป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตัวสัตว์เลี้ยงและเป็นการช่วยให้ไม่เกิดโรคผิวหนัง
(thonglorpet, 2565) ในกรณีที่สัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคผิวหนัง
โดยปกติแล้วการรักษาสามารถทำได้ด้วยการให้ยาฆ่าเชื้อ
ใช้แชมพูอาบน้ำแบบเฉพาะ หรือการใช้ยาต้านจุลชีพในรูปแบบทาหรือรูปแบบรับประทาน
(thonglorpet,
2566) ปัจจุบันการส่งเสริมการใช้เภสัชภัณฑ์ทางเลือกที่ได้จากสารธรรมชาติหรือสารสมุนไพรไทยเพื่อการป้องกันและรักษาโรคในสัตว์เลี้ยงได้รับความสนใจเป็นอย่างยิ่ง
เนื่องจากสารธรรมชาติและสารสมุนไพรไทยมีศักยภาพที่นำมาประยุกต์ใช้ทางเภสัชวิทยาได้หลากหลาย
โดยสารธรรมชาติที่น่าสนใจสำหรับการนำมาเป็นเภสัชภัณฑ์ทางเลือกสำหรับบำรุงผิวหนังและเส้นขน
คือ น้ำมันปาล์มแดง
เนื่องจากน้ำมันปาล์มแดงได้จากกรรมวิธีในการสกัดผลปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นผลผลิตทางการเกษตรปริมาณมากในพื้นที่ภาคใต้ที่ไม่ผ่านความร้อนและสารเคมีจึงทำให้ทำให้น้ำมันปาล์มแดงอุดมด้วยสารแคโรทีนอยด์ (carotenoid) วิตามินเอ
และวิตามินอีและกรดไขมันในปริมาณสูงที่มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวหนังและเส้นขน
อีกทั้งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสูงจึงทำให้น้ำมันปาล์มแดงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมการผลิตผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
นอกจากนั้นสมุนไพรพื้นถิ่นที่มีศักยภาพสูงและน่าสนใจ คือ ทองพันชั่ง (Rhinacanthus
nasutus)
และขมิ้นชัน (Curcuma
longa )
เนื่องจากสมุนไพรกลุ่มดังกล่าวมีรายการการศึกษามากมายและพบว่ามีฤทธิ์ทางชีวภาพที่หลากหลาย
ประกอบด้วย ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านอนุมูลอิสระ และต้านการอักเสบ
เป็นต้น เนื่องจากในสมุนไพรทองพันชั่ง (Rhinacanthus nasutus)
มีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ สารกลุ่มไรนาแคนทิน
(Rhinacanthin) ที่มีฤทธิ์ในการยังยั้งโรคติดเชื้อผิวหนัง (Voravuthikunchai &
Kitpipit, 2005) และขมิ้นชัน (Curcuma longa
)
มีสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ คือ สารเคอร์คูมิน (Curcumin) ที่ช่วยลดการอักเสบและป้องกันการติดเชื้อจากแบคทีเรียและเชื้อรา (Afrose et al., 2015; Gupta et al., 2015)
ดังนั้นจะเห็นได้ว่าสารธรรมชาติ (น้ำมันปาล์มแดง) และสมุนไพรไทยพื้นถิ่น (ทองพันชั่งและขมิ้นชัน)
มีศักยภาพสูงสำหรับการนำไปประยุกต์ใช้หรือการพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการป้องกันและรักษาโรคผิวหนังในสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันได้นำนาโนเทคโนโลยี (Nanotechnology)
และระบบการนำส่ง (Drug delivery) มาประยุกต์ใช้กันอย่างกว้างขวางทั้งยาและสารสกัดสมุนไพร
สำหรับนาโนเทคโนโลยีและระบบนำส่งที่น่าสนใจ คือ อนุภาพนาโนไขมัน
ประกอบด้วยไขมันแข็ง (solid lipid) หรือส่วนผสมระหว่างไขมันแข็งและไขมันเหลว
(liquid lipid) เป็นส่วนประกอบหลักซึ่งมีชื่อเรียกว่า Solid
lipid nanoparticles (SLNs) และ Nanostructured lipid
carriers (NLCs) ตามลำดับ
อนุภาคนาโนไขมันทั้งสองชนิดเตรียมจากไขมันที่มีความปลอดภัยต่อร่างกาย
โดยไม่หลอมละลายที่อุณหภูมิห้องหรือร่างกาย ประกอบด้วย ไขมันของแข็ง ไขมันของเหลว
และสารทําอิมัลชัน ขนาดอนุภาคอยู่ในช่วงนาโนเมตร
การที่ส่วนประกอบของไขมันเหลวตำรับ NLCs ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการกักเก็บตัวยาหรือสารสำคัญและมีการควบคุมการปลดปล่อยตัวยาหรือสารสำคัญออกมาจากตำรับที่ดีขึ้นกว่า
SLNs เนื่องจากตัวยาหรือสารสำคัญที่ใส่เข้าไปในตำรับสำหรับ SLNs
สารจะแทรกตัวอยู่ระหว่างโครงร่างผลึก (crystal lattice) ที่เป็นระเบียบแต่ใน NLCs สารจะแทรกตัวอยู่ระหว่างโครงร่างที่ไม่เป็นระเบียบทำให้ปริมาณของตัวยาหรือสารสำคัญถูกกักเก็บได้มากขึ้น
โดยการกักเก็บตัวยาหรือสารสำคัญที่มีคุณสมบัติชอบไขมันอาจถูกกักเก็บอยู่ในอนุภาคได้ถึง
90-98 % ในขณะที่ตัวยาหรือสารสำคัญที่มีคุณสมบัติชอบน้ำอาจถูกกักเก็บได้ประมาณ
20-30 % อนุภาคนาโนไขมันมีข้อดีในการนำส่งตัวยาหรือสารสำคัญที่ดีกว่าระบบอื่นๆ คือ
ไขมันซึ่งเป็นส่วนประกอบในตำรับทำให้พื้นที่ผิวของอนุภาคสูงขึ้นทำให้การยึดเกาะกับผิวหนังสูงขึ้น
มีความชุ่มชื้นสูงขึ้นและยังมีคุณสมบัติในการเพิ่มการแทรกผ่านผิวหนัง (penetration
enhancer) สามารถควบคุมการปลดปล่อยยาได้ มีความเสถียรภาพสูง
และส่วนประกอบของระบบเป็นสารที่เข้ากันได้กับร่างกาย สำหรับการเตรียมอนุภาคนาโนมีหลายวิธี เช่น
วิธีปั่นผสมเป็นเนื้อเดียวกันด้วยความดันสูงแบบเตรียมที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำ (hot
or cold high-pressure homogenization), วิธีทำให้เกิดอิมัลชันด้วยตัวทำละลายและการระเหย
(solvent emulsification and evaporation), วิธีทำให้เกิดอิมัลชันและการแพร่ผ่าน
(emulsification-diffusion technique) และการกลับวัฏภาค (phase
inversion)
ดังนั้น งานวิจัยครั้งนี้มีความสนใจการนำสารธรรมชาติ (น้ำมันปาล์มแดง)
และสมุนไพรไทยพื้นถิ่นทั้ง 2 ชนิด (ทองพันชั่งและขมิ้นชัน) มาพัฒนากรรมวิธีการสกัดด้วยหลักการเทคโนโลยีสีเขียวหรือ
“Green Extraction” นั้นก็คือ “Microwave extraction”
ที่ทำให้ได้สกัดสารสำคัญได้มาก
ลดปริมาณการใช้สารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายจึงมีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสอดคล้องกับโมเดลเศรษฐกิจบีซีจี
การพัฒนาอนุภาคนาโนสตรักเจอร์ลิปิดแคริเออร์ในการนำส่งสารสกัดขมิ้นชัน
และการทดสอบคุณสมบัติทางเคมีและฤทธิ์ทางชีวภาพ
ประกอบด้วย ฤทธิ์อนุมูลอิสระ ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย และต้านเชื้อรา เพื่อนำไปผลิตผลิตภัณฑ์แชมพูสำหรับบำรุงผิวหนังและป้องกันโรคติดเชื้อผิวหนังในสัตว์เลี้ยง |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | |
เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย
ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | พรปวีณ์ วงศ์กูล | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | หัวหน้าโครงการ | 50 |
2 | จักรพงษ์ เมืองทรัพย์ | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |
3 | สุภาพร กาญจนศิราธิป | คณะสัตวแพทยศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช | ผู้ร่วมวิจัย | 25 |