โครงการวิจัย
ระเบียบวิธีการทำนายคุณสมบัติของวัสดุฉนวนไฟฟ้าแรงสูงโดยใช้การเรียนรู้ของเครื่อง
Machine learning approach for predicting material properties of High Voltage Insulator
รายละเอียดโครงการ
ปีงบประมาณ | 2569 |
หน่วยงานเจ้าของโครงการ | |
ลักษณะโครงการ | โครงการใหม่ |
ประเภทโครงการ | โครงการเดี่ยว |
ประเภทงานวิจัย | โครงการวิจัยและพัฒนา |
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 1 ตุลาคม 2568 |
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) | 30 กันยายน 2569 |
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) | 30 พฤษภาคม 2568 |
ประเภททุนวิจัย | งบประมาณรายได้ |
สถานะโครงการ | อยู่ระหว่างทำสัญญา |
เลขที่สัญญา | |
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา | ไม่ใช่ |
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม | ไม่ใช่ |
บทคัดย่อโครงการ | วัสดุฉนวนไฟฟ้าแรงสูงเป็นองค์ประกอบสำคัญในระบบส่งกำลังไฟฟ้าและอุตสาหกรรมไฟฟ้าต่าง
ๆ หน้าที่หลักของวัสดุเหล่านี้คือการป้องกันการไหลของกระแสไฟฟ้าที่ไม่พึงประสงค์และลดความสูญเสียทางพลังงาน
นอกจากนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งในระบบส่งจ่ายไฟฟ้าแรงสูงที่สามารถช่วยส่งเสริมเสถียรภาพของการส่งจ่ายให้ดียิ่งขึ้น
ถ้าได้รับการออกแบบอย่างถูกต้องและเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ที่เหมาะสม ในปัจจุบันระบบไฟฟ้าแรงสูงของประเทศไทยเกือบทั้งหมดเป็นแบบสายขึงในอากาศใช้ลูกถ้วยฉนวนแบบทั่วไป
ลูกถ้วยฉนวนไฟฟ้าสามารถแบ่งตามวัสดุที่ใช้ทำลูกถ้วยฉนวนออกเป็น
ลูกถ้วยฉนวนพอร์ซเลน ลูกถ้วยฉนวนพอลิเมอร์ และลูกถ้วยฉนวนแก้วเหนียว
[1,2] ในปัจจุบันลูกถ้วยฉนวนพอลิเมอร์
เป็นที่ยอมรับและถูกนำมาใช้มีข้อได้เปรียบหลายอย่างเมื่อเทียบกับลูกถ้วยฉนวนพอร์ซเลนและลูกถ้วยฉนวนแก้วเหนียว
คือ ยางซิลิโคนมีแรงตึงผิวต่ำ (low surface tension energy) จึงทำให้ผิวของลูกถ้วยฉนวนมีคุณสมบัติไม่ชอบน้ำ
(hydrophobicity)
ซึ่งทำให้ลูกถ้วยฉนวนยางซิลิโคนมีสมรรถนะทางไฟฟ้าภายใต้สภาวะเปรอะเปื้อนและสภาวะเปียกชื้นดีกว่าลูกถ้วยฉนวนแบบธรรมดา ปัจจุบันการวิจัยทางด้านวัสดุวิศวกรรมมีความก้าวหน้าไปอย่างมาก
มีการพัฒนาเพื่อใช้ในงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ และเป็นสินค้าส่งออกทำรายได้ให้แก่ประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งยางธรรมชาติที่มีกำลังการผลิตเป็นอันดับต้นๆในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก
ด้วยคุณสมบัติที่เป็น Renewable material ที่มีความยืดหยุ่นสูง
ง่ายต่อการขึ้นรูปและมีน้ำหนักเบา ทำให้มีการผลิตเป็นทั้งสารตั้งต้นและสารผสมลงในวัสดุต่างๆ
มากมาย แต่ยางธรรมชาติก็ยังคงมีข้อด้อยในเรื่องของความแข็งแรงต่ำและจะอ่อนเยิ้มเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น
ทำให้ต้องผสมด้วยสารตัวเติมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติทางกลและคุณสมบัติทางไฟฟ้าให้ดียิ่งขึ้น
การเลือกสารตัวเติมจึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและนำไปสู่การออกสูตรผสมยางซึ่งในกระบวนการดั้งเดิมเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์วัสดุลูกถ้วยฉนวนใหม่ที่มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการจำเป็นต้องใช้เวลาและทรัพยากรในการทดลองและวิจัยจำนวนมาก
ด้วยเหตุนี้ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) โดยเฉพาะ Machine Learning (ML) ได้กลายมาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยทำนายคุณสมบัติของวัสดุโดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่ที่สามารถเรียนรู้และสร้างแบบจำลองจากข้อมูลเพื่อลดความซับซ้อนและต้นทุนในการวิจัยและพัฒนาวัสดุฉนวนใหม่
[3-5] ดังนั้น ผู้วิจัยเห็นว่า ML เป็นเทคนิคใหม่ที่จะถูกนำมาใช้เพื่อทำนายคุณสมบัติของวัสดุฉนวนไฟฟ้าแรงสูงได้ ทั้งคุณสมบัติทางกล เช่น ค่าความแข็ง, ค่าความต้านทานแรงดึง เป็นต้น และคุณสมบัติทางไฟฟ้า เช่น ค่าความต้านทานไฟฟ้า ค่าความเป็นฉนวน ค่า permittivity ค่า dielectric breakdown เป็นต้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถออกแบบวัสดุใหม่ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ หลังจากนั้นวัสดุจะต้องได้รับการยืนยันผลการทำนาย (Validation of Predictions) เพื่อเป็นการยืนยันแนวคิดดังกล่าว ทั้งนี้การประยุกต์ใช้ ML ในงานวิจัยนี้ยังสามารถนำไปสู่การประยุกต์ใช้ในงานผลิตวัสดุสำหรับงานวิศวกรรมไฟฟ้าอื่น ๆ ต่อไปได้ |
รายละเอียดการนำไปใช้งาน | นำ Machine Learning มาเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการช่วยทำนายคุณสมบัติของวัสดุโดยอาศัยข้อมูลที่มีอยู่ที่สามารถเรียนรู้และสร้างแบบจำลองจากข้อมูลเพื่อลดความซับซ้อนและต้นทุนในการวิจัยและพัฒนาวัสดุฉนวนใหม่ |
เอกสารประกอบโครงการ |
|
ทีมวิจัย

ที่ | นักวิจัย | หน่วยงาน | ตำแหน่งในทีม | การมีส่วนร่วม (%) |
---|---|---|---|---|
1 | สลักจิตร แบลนชาร์ด | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | หัวหน้าโครงการ | 60 |
2 | ดร. อุไรวรรณ สุกยัง | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |
3 | สุนทร รุ่งเรืองใบหยก | คณะวิศวกรรมศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย สงขลา | ผู้ร่วมวิจัย | 20 |