โครงการวิจัย

โกโก้ ถือเป็นหนึ่งในพืชเศรษฐกิจใหม่ที่น่าจับตา โกโก้เป็นพืชยืนต้นให้ผลผลิตตลอดปี สามารถปลูกได้ทั้งแบบเชิงเดี่ยวและแบบปลูกแซม ในปัจจุบันความนิยมในการบริโภคโกโก้สูงขึ้นทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมถึงประเทศไทยมีการนำเข้าโกโก้จากต่างประเทศเพื่อนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร เครื่องดื่ม นม เบเกอรี่ ยา ยาสูบ และเครื่องสำอาง และมีแนวโน้มการขยายตลาดโกโก้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ปัจจุบันจึงมีการส่งเสริมให้เกษตรกรไทยหันมาเพิ่มพื้นที่เพาะปลูกโกโก้ให้มากขึ้นเพื่อลดการพึ่งพาการนำเข้าโกโก้จากต่างประเทศ และส่งเสริมการส่งออกเมล็ดโกโก้แห้งไปยังต่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งไทยเป็นผู้ผลิตโกโก้ อันดับ 4 ของอาเซียน โดยเมล็ดโกโก้แห้งจะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบต่างๆ ได้แก่ โกโก้เหลว (cocoa liquor) โกโก้บัตเตอร์ (cocoa butter) และ โกโก้ผง (cocoa powder) ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงในอุตสาหรรมช็อกโกแลต เครื่องสำอางและความงามต่อไป

          จากการลงพื้นที่ของนักวิจัยในโครงการ “การขยายผลเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดโกโก้แห้งเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในจังหวัดนครศรีธรรมราช” จากหน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัยและนวัตกรรมด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ประจำปี 2566 (Appropiate Technology) ในตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อการส่งเสริมกระบวนการผลิตเมล็ดโกโก้ให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพสูง มีโอกาสเพิ่มสามารถแข่งขันในตลาดให้สูงขึ้น และยกระดับกลุ่มวิสาหกิจและผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์โกโก้ในรูปแบบเมล็ดแห้งคั่ว โกโก้นิบส์ ผงโกโก้ คราฟท์ช็อกโกแลต และโกโก้บัตเตอร์ อย่างไรก็ดี จากการลงพื้นที่จะเห็นได้ว่าส่วนของเปลือกผล (pod husk) เปลือกเมล็ดโกโก้ (bean shell) เป็นของเสียเหลือใช้ทางการเกษตรจากกระบวนการผลิตเมล็ดโกโก้แห้ง ซึ่งมีปริมาณมากและถูกทิ้งอย่างสูญเปล่าโดยไม่เกิดประโยชน์ นอกจากนี้จังหวัดนครศรีธรรมราช เริ่มมีการปลูกโกโก้ในปีพ.ศ. 2524 ที่ตำบลสระแก้ว อำเภอท่าศาลา ซึ่งเป็นโกโก้ดั้งเดิมของจังหวัดนครศรีธรรมราช มีอายุราว 30 – 40 ปี และสืบเนื่องจากภราดัยช็อกโกแลตได้รับรางวัลระดับโลกในการประกวดช็อกโกแลตที่ทำจากโกโก้ที่ปลูกในจังหวัดนครศรีธรรมราช ปัจจุบันอำเภอท่าศาลามีการขยายพื้นที่การปลูกและผลิตโกโก้เป็นจำนวนมากในจังหวัดนครศรีธรรมราช นั่นคือทำให้มีเปลือกผลและเปลือกเมล็ดของโกโก้ซึ่งเป็นของเสียที่ได้จากกระบวนการผลิตโกโก้เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน จากการจะได้เมล็ดโกโก้ 1 ตัน จะมี เปลือกโกโก้เกิดขึ้นถึง 10 ตัน ส่วนของเปลือกโกโก้นี้จึงกลายเป็นของเสียทางการเกษตรที่นำไปทิ้งที่โคนต้นโกโก้ให้ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ดังนั้นจึงเป็นที่มาของโจทย์การวิจัยในการนำเปลือกโกโก้มาสกัดสารสำคัญเพื่อนำไปใช้เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่ของเสียเหลือทิ้งจากการเกษตร รวมถึงเพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากโกโก้อย่างครบวงจรตามการส่งเสริมยุทธศาสตร์การพัฒนาโกโก้ครบวงจร จังหวัดนครศรีธรรมราช ป?พ.ศ. 2564-2567 นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพตามนโยบายการขับเคลื่อน BCG (Bio-Circular-Green Economy) ด้านเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-economy) และเพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนอีกด้วย

องค์ความรู้เพื่อตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารระดับนานาชาติ ฐานข้อมูล Scopus ระดับ Q3-Q4 เกี่ยวกับสารสำคัญและคุณสมบัติต่อการเป็นผลิตภัณฑ์เอสเซนส์บำรุงผิวหน้าจากสารสกัดจากของเหลือจากการผลิตโกโก้

• -