โครงการวิจัย

ผลจากการใช้สารเร่งเอทธิฟอนต่อคุณภาพยางธรรมชาติ

Effect of Ethephon Stimulation on Quality of Natural Rubber

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2558
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการย่อย
โครงการหลัก (Master Project)ผลจากการใช้สาร Ethephon ต่อผลผลิต คุณภาพน้ำยาง และคุณสมบัติเนื้อไม้ยางพารา
ประเภทงานวิจัย
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2556
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2558
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 มกราคม 2556
ประเภททุนวิจัย งบประมาณแผ่นดิน
สถานะโครงการ สิ้นสุดโครงการ(ส่งผลผลิตเรียบร้อยแล้ว)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ วัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้ เพื่อศึกษาผลของการใช้สารเอทธิฟอนเพื่อเพิ่มผลผลิตน้ำยางต่อสมบัติของยางธรรมชาติ ทั้งน้ำยางสด (Latex) ยางแผ่นรมควัน (RSS) และยางวัลคาไนซ์ (Vulcanized rubber) จากการศึกษาสมบัติของน้ำยางที่ได้จากการกรีดทั้ง 3 ระบบ คือ 1 ระบบกรีดปกติ (Control) 2 ระบบทาด้วยสารเร่งน้ำยางเข้มข้น 2.5 เปอร์เซ็นต์ (Ethephon 2.5%) และ 3 ระบบเจาะร่วมกับการอัดแก๊ส (Double TEX) พบว่าการใช้สารเร่งน้ำยางไม่มีผลต่อ ความเป็นกรด–ด่าง (pH) ปริมาณกรดไขมันระเหยได้ (VFA No.) และความเสถียรเชิงกลของน้ำยาง (MST) ในขณะที่เปอร์เซ็นต์เนื้อยางแห้ง (%DRC) เปอร์เซ็นต์ของแข็งทั้งหมด (%TSC) และความหนืดของน้ำยาง (viscosity) ที่ได้จากการกรีดที่มีการใช้สารเร่งน้ำยางมีค่าลดลงเมื่อเทียบกับการกรีดแบบปกติ แต่ปริมาณผลผลิตในรูปเนื้อยางแห้งเฉลี่ยต่อต้นเพิ่มขึ้น โดยระบบทาด้วยสารเร่งน้ำยางเพิ่มขึ้น 220 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ระบบเจาะร่วมกับการอัดแก๊สเพิ่มขึ้น 244 เปอร์เซ็นต์ สำหรับสมบัติของยางแผ่นรมควันที่ได้จากการกรีดด้วยระบบต่างๆ พบว่าการใช้สารเร่งน้ำยางไม่มีผลต่อ ปริมาณสิ่งสกปรก (%Dirt) ความอ่อนตัวเริ่มต้น (Po) ดัชนีความอ่อนตัว (PRI) สี และความหนืดมูนนี้ (Mooney viscosity) ในขณะที่ปริมาณขี้เถ้า (%Ash) และปริมาณไนโตรเจน (%N2) จะมีปริมาณใกล้เคียงกันโดยระบบเจาะร่วมกับการอัดแก๊สมีค่ามากกว่าระบบทาด้วยสารเร่งน้ำยางและระบบกรีดปกติตามลำดับ สำหรับสมบัติของยางคอมปาวด์และยางวัลคาไนซ์พบว่าการใช้สารเร่งน้ำยางไม่มีผลต่อสมบัติยางคอมปาวด์และสมบัติยางวัลคาไนซ์
รายละเอียดการนำไปใช้งาน ได้องค์ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารเร่งน้ำยางที่เป็นข้อมูลทางวิชาการ ที่สามารถนำไปเผยแพร่แก่เกษตรกรชาวสวนยางพารา ในการตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยีการเร่งน้ำยางด้วยสารเอทธิลีนหรือไม่ แทนการรับข้อมูลด้านบวกเพียงด้านเดียวจากการโฆษณาของบริษัทผู้ขายอุปกรณ์อัดแก๊สเอทธิลีนเพื่อเร่งน้ำยาง
เอกสาร Final Paper(s)
  • -

ทีมวิจัย

ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1ดร. เอกวิทย์ เพียรอนุรักษ์คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ70