การผลิตต้นตอทุเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อให้ต้านทานต่อโรคเชื้อรา Phytophthora palmivora (Butler)

Production of Durian Stock in Nakhon Si Thammarat Province for disease resistance of Phytophthora palmivora (Butler)

รายละเอียดโครงการ

ปีงบประมาณ 2565
หน่วยงานเจ้าของโครงการ
ลักษณะโครงการ โครงการใหม่
ประเภทโครงการ โครงการย่อย
โครงการหลัก (Master Project)การยกระดับการผลิตทุเรียนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพผลผลิตเชิงการค้า
ประเภทงานวิจัย โครงการประยุกต์
วันที่เริ่มโครงการวิจัย (พ.ศ.) 1 ตุลาคม 2564
วันที่สิ้นสุดโครงการวิจัย (พ.ศ.) 30 กันยายน 2565
วันที่ได้รับทุนวิจัย (พ.ศ.) 1 ธันวาคม 2564
ประเภททุนวิจัย ทุน ววน.
สถานะโครงการ แล้วเสร็จ(ค้างส่งผลผลิต)
เลขที่สัญญา
เป็นโครงการวิจัยที่ใช้ในการจบการศึกษา ไม่ใช่
เป็นโครงการวิจัยรับใช้สังคม ไม่ใช่
บทคัดย่อโครงการ

ทุเรียน (Durio zibethinus Murr.) เป็นไม้ผลเขตร้อนอยู่ในวงศ์ Bombacaceae

เจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้น ที่มีความชื้นในอากาศประมาณ 75-80 เปอร์เซ็นต์ มีฝนตก

สม่ าเสมอปีละ 1,600-4,000 มิลลิเมตร อุณหภูมิที่เหมาะสมสาหรับการเจริญเติบโตอยู่ระหว่าง 25-30

องศาเซลเซียส แหล่งปลูกทุเรียนที่ส าคัญจึงพบมากในกลุ่มประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

โดยเฉพาะในประเทศไทย มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ (Nanthachai, 1994) สาหรับ

ประเทศไทยมีแหล่งปลูกที่ส าคัญทางภาคตะวันออก ได้แก่ ระยอง จันทบุรี และตราด ส่วนทางภาคใต้

ได้แก่ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี (ฝ่ายข้อมูลส่งเสริมการเกษตร, 2543) จังหวัดนครศรีธรรมราชมี

ชื่อเสียงด้านการผลิตไม้ผลเศรษฐกิจที่สาคัญหลายชนิด หนึ่งในนั้นคือทุเรียน โดยในปี 2562 มีพื้นที่

ปลูกประมาณ 65,492 ไร่ ถือเป็นอันดับ 5 ของประเทศ จากการลงพื้นที่สารวจปัญหาในการผลผลิต

ทุเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชพบว่าปัญหาส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคการผลิต โดยทุเรียนเป็นไม้ผล

เขตร้อนที่ได้รับความนิยมจากตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศ อย่างไรก็ตามผลผลิตทุเรียนที่มี

คุณภาพยังคงไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ส่งผลให้ผู้ส่งออกมีการนาทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพ

ออกไปจ าหน่ายเพราะขายได้ราคาดี โดยไม่สนใจเรื่องคุณภาพและรสชาติของทุเรียน ส่งผลกระทบต่อ

ชื่อเสียงทุเรียนไทย ในขณะที่ทุเรียนไทยในตลาดโลกเติบโตเพิ่มขึ้นปีละ 10-15% ดังนั้นจาเป็นที่

จะต้องผลิตทุเรียนให้มีคุณภาพและปริมาณเพียงพอ นอกจากการตัดทุเรียนที่ไม่มีคุณภาพรวมถึง

ทุเรียนอ่อนไปจาหน่ายแล้วเกษตรกรที่ปลูกทุเรียนในปัจจุบันมักประสบปัญหาเรื่องโรคซึ่งเกิดจากเชื้อ

P. palmivora (Butler) ส่งผลต่อคุณภาพผลผลิตทุเรียนในปัจจุบันทาให้ไม่มีผลผลิตออกสู่ตลาด หรือ

ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดไม่ได้คุณภาพ ทั้งนี้เกษตรกรส่วนใหญ่จึงหันมาใช้สารเคมีในปริมาณมาก เพื่อให้

ได้ผลผลิตซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยเชื้อดังกล่าวเข้าทาลายส่วนของรากและโคน

ทุเรียน ทาให้เกิดอาการรากเน่า โคนเน่า ใบร่วง และยืนต้นตายในที่สุด การป้องกันกาจัดโรคยังไม่

ประสบความสาเร็จ เนื่องจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเข้าทาลายของเชื้อโรค อีกทั้งยังมี

หนอนเจาะผลทุเรียนเป็นแมลงศัตรูที่ทาให้ผลทุเรียนเน่าและร่วง สร้างความเสียหายร้ายแรงให้

ผลผลิตทุเรียน และด้วยราคาทุเรียนที่สูงกิโลกรัมละ 150 บาท ส่งผลกระทบต่อการเก็บเกี่ยวทุเรียน

คุณภาพ โดยพ่อค้าที่เข้ามารับซื้อจะตัดทุเรียนให้ได้มาก โดยไม่สนใจว่าทุเรียนถึงระยะการเก็บเกี่ยว

หรือไม่ ในขณะที่เกษตรกรส่วนใหญ่พิจารณาดัชนีการเก็บเกี่ยวจากการนับวันหลังดอกบาน และ

ลักษณะทางกายภาพ ได้แก่ สีที่ปลายหนาม ร่องพู หรือเมื่อเคาะมีเสียงโพรกและโปร่ง แต่เทคนิค

3

ดังกล่าวนี้ต้องใช้ผู้ที่มีความช านาญและประสบการณ์จึงท าให้เกิดความคาดเคลื่อนได้ จากปัญหาต่างๆ

ที่กล่าวมาแล้วข้างต้นจึงน ามาสู่งานวิจัยเพื่อพัฒนาหาแนวทางในการแก้ปัญหา ดังนั้นจึงต้องมี

การศึกษาหาต้นตอทุเรียนในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่ต้านทานต่อเชื้อรา P. palmivora

(Butler) และน ามาทาเป็นต้นตอในการเสียบยอดต่อไป และในช่วงที่ปลูกทุเรียนลงแปลงก็จ าเป็นต้อง

คัดเลือกและใช้แบคทีเรียเอนโดไฟท์ที่สามารถยับยั้งเชื้อโรคและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช

รวมถึงป้องกันการเกิดโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ระยะติดผลก็จะศึกษาหาแนวทางในการ

กาจัดหนอนเจาะผลทุเรียน โดยวิธีผสมผสานจากการใช้สารชีวภัณฑ์ไส้เดือนฝอยเป็นหลักร่วมกับการ

ใช้กับดักแสงไฟ การใช้ตาข่ายพันรอบต้น เพื่อให้เกษตรกรสามารถจัดการหนอนเจาะผลทุเรียนอย่างมี

ประสิทธิภาพ นอกจากนี้ในช่วงการเก็บเกี่ยวผลผลิตทุเรียนก็จะมีการพัฒนาเครื่องมือที่จะตรวจสอบ

ความสุกแก่ทางสรีรวิทยาได้รวดเร็วและสะดวกในขั้นตอนลาดับต่อไป

รายละเอียดการนำไปใช้งาน
เอกสารประกอบโครงการ
  • -

ทีมวิจัย

หัวหน้าโครงการ
ที่ นักวิจัย หน่วยงาน ตำแหน่งในทีม การมีส่วนร่วม (%)
1สกุลรัตน์ หาญศึกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชหัวหน้าโครงการ60
2วราภรณ์ หีดฉิมคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20
3พรศิลป์ สีเผือกคณะเกษตรศาสตร์ ราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราชผู้ร่วมวิจัย20